
มารยาทการรับประทานอาหาร (Dining Etiquette & Table Manners)
มารยาทที่ดีบนโต๊ะอาหารของประเทศหนึ่ง แต่กลับเป็นเรื่องเสียมารยาทมากของอีกประเทศหนึ่ง เขาเมืองตาหลิ่ว ให้หลิ่วตาตาม ถ้าเพื่อนต่างชาติชวนไปทานอาหารที่บ้าน ควรรู้จัก มารยาทการรับประทานอาหาร ของบ้านเค๊าไว้จะได้ไม่เผลอไปทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทกับเจ้าของบ้าน มาดูว่า มารยาทการรับประทานอาหาร จากนานาประเทศ แตกต่างกันยังไงบ้าง
ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่ามีวัฒนธรรมเก่าแก่และสวยงามในเรื่องของอาหาร แม้การทานอาหารเสียงดังหรือทำโต๊ะอาหารสกปรกเลอะเทอะเป็นเรื่องไม่สุภาพ แต่การทานอาหารประเภทเส้น อย่าง ราเมง หรืออุด้ง คุณต้องดูดเส้นเสียงดัง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าภาพทำอาหารอร่อย การตัดเส้นวางในช้อนแล้วทานแบบบ้านเราถือว่าเสียมารยาท รวมทั้งเวลาไปทานอาหารในร้านด้วยนะ พ่อครัวอาจจะแอบน้อยใจ ถ้าเราค่อยๆ ม้วนเส้นราเมงแล้วทานอย่างเรียบร้อยตามมารยาทที่ดีในบ้านเรา
ห้ามเอาตะเกียบคีบอาหารส่งให้คนอื่นเด็ดขาด ที่ญี่ปุ่นใช้ตะเกียบคีบกระดูกคนตายไปเก็บไว้ในโกศ ถ้าต้องคีบอาหารส่งให้กันจริงต้องกลับด้านของตะเกียบลงแล้วค่อยเคียบ ห้ามเอาปักตะเกียบลงไปในอาหารเด็ดขาด
คนญี่ปุ่นจะรินเครื่องดื่มให้คนอื่น แล้วคอยให้คนอื่นรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง ส่วนที่เกาหลีผู้น้อยต้องคอยรินเครื่องดื่มให้ผู้อาวุโสกว่า ถ้าผู้อาวุโสรินเครื่องดื่มให้คุณ ให้รีบรับมาด้วยมือทั้งสองข้าง เรื่องอาวุโสถือว่าสำคัญมาก ต้องรอผู้ที่มีอายุสูงสุดในบ้านมาที่โต๊ะอาหารก่อนคุณถึงเริ่มทานได้ วัฒธรรมการรับประทานอาหารอาจคล้ายกันหลายอย่างแต่คนเกาหลีไม่ดูดเส้นเสียงดัง ไม่ยกถ้วยซดน้ำซุบแต่จะใช้ช้อนตักแทน
ประเทศจีน
การใช้ตะเกียบถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในประเทศจี ถ้าไม่อยากเสียมารยาทกับเจ้าภาพควรเรียนรู้การใช้ตะเกียบ ห้ามใช้ตะเกียบชี้หน้าคนอื่น หรือใช้ตะเกียบปักไปบนถ้วยใส่ข้าวเป็นอันขาด เพราะเป็นการกระทำสำหรับคนตาย ควรจับตะเกียบด้วยมือขวา เวลาไม่ใช้แล้วควรพักไว้บนที่พักตะเกียบหรือบนจานวางตะเกียบด้านขวามมือ ไม่ควรเอาตะเกียบเคาะโต๊ะ หรือทำเสียงดัง
ประเทศอินเดีย
ถือว่าเป็นเรื่องไม่สุภาพมากที่ทานอาหารด้วยมือซ้ายในอินเดีย รวมถึงประเทศในตะวันออกกลางที่นิยมทานอาหารด้วยมือ แต่ต้องเป็นมือขาวเท่านั้น เพราะว่ามือซ้ายเอาไว้ทำธุระตอนเข้าห้องน้ำ คนอินเดียและอาหรับถือว่ามือซ้ายสกปรก ควรใช้มือขวาเท่านั้น
ประเทศอียิปส์
ห้ามเติมเกลือ หรือปรุงรสเพิ่มในประเทศอียิปส์ เพราะพ่อครัวอาจจะไม่พอใจ ที่คุณคิดว่าเค๊าทำอาหารไม่อร่อย
ประเทศฟิลิปปินส์
ต้องเรียนรู้ที่จะรอคอยเมื่อไปทานอาหารที่บ้านเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ เมื่อไปถึงก็อย่านั่งลงทันที ต้องรอให้เจ้าของบ้านเชิญก่อน แล้วเราค่อยนั่ง เมื่ออาหารถูกนำมาเสริฟตรงหน้าก็อย่าเพิ่งลงมือรับประทาน ต้องรอให้เจ้าของบ้านออกปากเชื้อเชิญก่อน พอทานแล้วยังไม่อิ่มอย่าเพิ่งขอเติมอาหารเพราะถือว่าไม่สุภาพ ควรรอให้เจ้าของบ้านเสนอก่อนถึงเติมได้
ไม่ควรทานอาหารจนเกลี้ยงจาน ในประเทศอียิปต์กับกัมพูชาก็เช่นกันการทานอาหารจนหมดเป็นการบ่งบอกเป็นนัยว่าเจ้าของบ้านเลี้ยงอาหารคุณไม่เพียงพอ ตรงกันข้ามที่ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆในยุโรป เจ้าภาพจะดีใจมากที่คุณทานอาหารให้หมดจาน
ประเทศฝรั่งเศส
ที่ฝรั่งเศส เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราถูกสอนมาดี มีมารยาทดี ควรทานอาหารช้าๆ ไม่รีบ ทานไป คุยไป เอ็นจอยกับอาหารที่กำลังทาน การก้มหน้าก้มตารีบๆ กินให้เสร็จ ไม่สนใจคนอื่นบนโต๊ะอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องเสียมารยาท คนฝรั่งเศสใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในทานอาหารแต่ละมื้อ ถ้าหาถูกเชิญไปทานอาหารที่บ้านคนอื่น อาจจะใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง กินไปคุยไป เวลาทานอาหารประเภทสลัดคนฝรั่งจะใช้มีดกับส้อมค่อยๆ พับใบสลัดแทนการใช้มีดตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ การใช้มีดจิ้มอาหารแล้วส่งเข้าปากเป็นถือเรื่องเสียมารยาทมาก
ประเทศอังกฤษ
มารยาทการรับประทานอาหารเป็นเรื่องสำคัญ ชาวอังกฤษใช้ส้อมและมีดในการรับประทานอาหาร และใช้ช้อนสำหรับตักซุป ควรใช้ช้อนตักซุปในลักษณะออกจากตัว ถ้าถ้วยที่ใส่ซุปมีหูสำหรับจับ คุณสามารถยกถ้วยซุปขึ้นมาดื่มได้เลย
ประเทศอิตาลี
ไม่ควรขอชีสเพิ่มจากเจ้าภาพชาว เพราะนั่นแสดงว่าเจ้าภาพทำอาหารไม่อร่อย เวลาฝรั่งทานอาหารประเภทเส้นจะใช้ส้อมม้วนเส้นก่อนส่งเข้าปาก ไม่ควรใช้มีดตัดเส้น แล้วก็อย่าเผลอไปดูดเส้นเสียงดังเหมือนที่ญี่ปุ่นหล่ะ เพราะถือว่าไม่สุภาพ
ประเทศแทนซาเนีย
ถ้าเจ้าภาพชาวแทนซาเนียเชิญไปรับประทานอาหารที่บ้าน ควรไปสายสักยี่สิบนาที เพราะการไปตรงเวลาตามนัดเป๊ะ ถือว่าเสียมารยาทกับเจ้าของบ้านมาก
ฮีนูอิธ (Inuit) ประทศแคนนาดา
ชาวเอสกิโมถือว่าไม่เป็นเรื่องแปลกที่คุณเรอออกมาหลังรับประทานอาหาร เพราะนั่นแสดงว่าพวกเค๊าได้เลี้ยงดูปูเสื่อคุณอย่างดี จริงๆแล้วชาวเอสกิโมอยากให้คุณเรียกพวกเขาว่า “ฮีนูอิธ” มากกว่า เพราะเอสกิโมหมายถึงคนที่กินอาหารดิบๆ เพราะการปรุงอาหารของพวกเขาบางทีก็สุกบางทีก็ดิบ และหนึ่งในเมนูที่เขาอาจทำมาเลี้ยงคุณคือ ไอศครีมเอสกิโม ซึ่งทำขึ้นมาจากไขมันสัตว์บดผสมกับเนื้อปลาแซลมอนดิบ แต่อย่าเพิ่งทำท่าจะอาเจียรลองซิมดูก่อน เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์
ประเทศคาซัคสถาน
หากเจ้าของบ้านเสริฟชาเพียงครึ่งถ้วยให้กับแขก ถือเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าถึงเวลากลับบ้านแล้ว ในอัฟกานิสถาน เจ้าของบ้านจะให้เกียรติโดยให้แขกเป็นคนลงมือรับประทานอาหารก่อน ถ้าบังเอิญว่าแขกทำขนมปังตกลงพื้น เจ้าของบ้านต้องรีบหยิบขึ้นมา แล้วยกขึ้นถึงระดับหน้าฝากก่อนวางลงบนโต๊ะ และต้องทานด้วยมือขาวเท่านั้น
ประเทศเนปาล
ควรรับประทานอาหารด้วยมือขวา และไม่ควรลุกไปจากโต๊ะอาหารถ้าคนอื่นยังทานไม่เสร็จ แอดมินเคยไปทานอาหารกับครอบครัวชาวฝรั่งเศส พี่ชายของแฟนติดลม กินไม่เสร็จสักที คนอื่นกินอิ่มหมดแล้ว แม่ของแฟนแอบมากระซิบว่าให้นั่งเป็นเพื่อนพี่เขาก่อน สุดท้ายพี่เขามาขอบคุณที่เรานั่งบนโต๊ะอาหารเป็นเพื่อนเค๊า
ประเทศเอธิโอเปีย
ชาวเอธิโอเปียจะเอาอาหารรวมๆ กันมาในจานเดียวกัน แล้วแต่ละคนก็เลือกหยิบเอา
ประเทศรัสเซีย
ควรดื่มวอดก้าแบบเพียวๆ ในรัสเซีย ไม่ควรผสมอะไรลงไปให้เสียของ แต่ฝรั่งเศสกลับมีสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า “Il faut savoir mettre de l’eau dans son vin” แปลตามตัวก็คือควรรู้จักการเติมน้ำลงในแก้วไวน์ หมายความว่า ให้รู้จักการมีความยืดหยุ่นนั่นเอง แต่ถ้าคนที่คุณดื่มด้วยเขาเป็นเจ้าของโรงหมักไวน์ ก็ไม่ควรเติมน้ำลงในไวน์ เพราะเขาจะเคืองเอา ประมาณว่าเสียของ
มารยาทของชาวตะวันตก ระหว่างการรับประทานอาหารจะต้องวางมือไว้บนโต๊ะอาหาร ไม่ควรเอาไปซุกไว้ใต้โต๊ะ หรือแกะเกาอะไร เวลาไปทานอาหารบ้านใครก็ควรปรับตัวเข้าเจ้าของบ้าน เพราะมารยาทการรับประทานอาหารในแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน