แอปเปิ้ล 12 สายพันธุ์ ความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ใครๆ ก็เคยลิ้มรสมาแล้ว มีรสชาติอร่อย หอมหวาน กรอบ มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย คนยุโรปเชื่อกันว่าถ้าทานแอปเปิ้ลให้ได้ทุกวันจะมีสุขภาพที่ดี จนแทบไม่ต้องไปหาหมอเลย ในแอปเปิ้ล 1 ผล มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี สารเบต้าแคโรทีน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ และมีไฟเบอร์ครบทั้ง 2 ชนิด ในเนื้อแอปเปิ้ลจะมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซึมสารพิษ ไขมัน และคอเลสเตอรอล ส่วนที่เปลือกก็จะมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำไม่ได้ เป็นไฟเบอร์แบบกากใยที่จะช่วยในระบบขับถ่าย เพราะฉนั้นเราควรทานทั้งเปลือก แต่ต้องล้างให้สะอาดก่อน
นอกจากนี้แล้วยังเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการเก็บสะสม การทานแอปเปิ้ลก่อนออกกำลังกายก็ทำให้ร่างกายได้รับพลังงาน วิตามินและเกลือแร่ หลังออกกำลังกายถ้าทานแอปเปิ้ลได้ก็ยิ่งดี เพราะในแอปเปิ้ลมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 85% ให้พลังงาน
เชื่อกันว่ามีแอปเปิ้ลมากกว่า 7,500 สายพันธุ์ทั่วโลก ออกผลในทุกฤดูกาลที่แตกต่างกันไป แอปเปิ้ลมีหลากหลายสี หลายชนิด มีรสชาติและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป บางชนิดก็เหมาะที่จะทานแบบสดๆ หรือจะเอาไปทำอาหารทั้ง หวานคาว ทำสลัด ของหวาน หรือนำไปทำแอปเปิ้ลไซเดอร์ และเครื่องดื่มอัลกอฮอลชนิดต่างๆ
1. เรดดีลิเชียส Red Delicious
มีสีแดงเข้มรูปทรงคล้ายหัวใจ มาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและเปรู รสหวานอ่อนๆ กรอบอร่อย เหมาะที่จะรับประทานแบบสดๆ เพราะมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอีลาสติน และคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย
2. พิงค์เลดี้ Pink Lady®
แอปเปิ้ลสีแดงอมชมพูที่มาพร้อมกับสติกเกอร์รูปหัวใจ ถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลีย สายพันธ์ผสมระหว่าง Golden Delicious และ Lady Williams รสชาติหวานกรอบ ชุ่มฉ่ำ จะทานผลสดๆ ก็อร่อยสดชื่น หรือจะเอาไปทำสลัด แอปเปิ้ลแผ่นอบแห้ง แอปเปิ้ลอบน้ำผึ้ง หรือเบเกอรี่ต่างๆ
3. แกรนนี่สมิธ Granny Smith
มีถิ่นกำเนิดในออสเตรเลีย เปลือกสีเขียว รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่มีความกรอบ เป็นสายพันธ์ที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด มีไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน เหมาะที่จะทานแบบสดๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น หรือเอาไปทำสลัดก็อร่อย
4. โกลเด้นดีลิเชียส Golden
แอปเปิ้ลสีเหลืองที่มีรสชาติหอมหวาน กรอบ และมีสารสารเควอร์ซิติน ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ จะทานแบบสดๆหรือทำอาหารก็ได้ และเป็นแอปเปิ้ลที่นิยมเอาไปทำแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับสุขภาพ
5. กาล่า หรือ Royal Gala
เป็นลูกผสมระหว่าง Kidd’s Orange Red และ Golden Delicious จึงมีลักษณะโดดเด่นด้วยผิวเปลือกที่ลายมีเฉดสีเหลือง, ส้ม, แดงตัดกันชัดเจน นำเข้าจากนิวซีแลนด์ มีความหอม กรอบ หวานอร่อย นิยมรับประทานผลสด หรือประกอบอาหารได้นานาชนิด นอกจากนี้ยังนิยมฝานบางๆ แล้วนำไปทำแอปเปิ้ลแผ่น ทำสลัด, ซอส, ขนมอบ, พาย, เครื่องดื่ม, และเบเกอรี่ต่างๆ
6. แบร์เบิร์น Braeburn
สีของเปลือกเป็นเส้นแนวตั้งสีแดงหรือส้มบนพื้นสีเหลือง ความเข้มของสีจะแตกต่างกันไปตามสภาพการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน มีกลิ่นหอมละมุน รสชาติหวานอมเปรี้ยว โดยคาดว่าน่าจะเป็นแอปเปิ้ลพันธุ์ผสมระหว่าง Delicious และ Sturmer Pippin โดยมีเลดี้ฮามิลตันเป็นสายพันธ์พี่น้องกัน
7. ฟูจิ Fuji
มีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น สีออกแดงผสมกับลายสีเหลือง ลักษณะผลกลมใหญ่ที่มีทั้งความหอม เนื้อหวานกรอบ ทานแบบสดๆ จะให้ความรู้สึกสดชื่นมาก
8. แจส Jazz
มีถิ่นกำเนิดในประเทศนิวซีแลนด์ เป็นลูกผสมระหว่าง Royal Gala และ Braeburn ผิวเปลือกเรียบเนียน มีสีแดงกับเหลืองกระจายอยู่ทั้งผล ลักษณะเด่นคือรสชาติที่แตกต่าง รสเปรี้ยวนิดๆ ตามมาด้วยรสหวานกรอบอร่อย เนื้อแน่นกว่าพันธุ์อื่นๆ เป็นแอปเปิ้ลที่กัดแล้วเสียงดังมากที่สุด เป็นสายพันธ์ที่ทางประเทศนิวซีแลนด์ได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว
9. ฮันนี่คริปส์ Honeycrisp
แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นแอปเปิลที่กรอบอร่อย และมีรสหวานอมเปรี้ยวที่โดดเด่น เปลือกสีเหลืองที่มีบลัชสีแดงปกคลุมทั่วทั้งผล สายพันธุ์นี้ก็กำลังเป็นที่นิยม ทำเมนูได้หลากหลาย ช่วยเพิ่มรสชาติในหลากหลายเมนู อาทิ สลัด ซอส พาย ขนมอบ
10. แปซิฟิกโรส Pacific Rose
มีถิ่นกำเนิดในประเทศนิวซีแลนด์ เปลือกสีชมพูเหมือนสีกลีบกุหลาบ ให้รสหวานธรรมชาติเหมือนน้ำผึ้ง กรอบอร่อย เนื้อฉ่ำ ให้ความสดชื่นเหมือนมหาสมุทรแปซิฟิก
11. เอนวี Envy
เป็นสายพันธ์ผสมระหว่าง Royal Gala และ Braeburn เช่นเดียวกับแอปเปิ้ลแจส ได้รับการพูดถึงว่าเป็นสายพันธ์ที่ดีพร้อมทุกสิ่งอย่าง เปลือกสีสวย เนื้อมีสีเหลืองอ่อน รสชาติหอมหวาน ไม่มีรสเปรี้ยวปนเหมือนแอปเปิ้ลแจส เนื้อแน่นกรอบ มีกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ แถมเวลาที่หั่นไว้แล้วสียังไม่คล้ำเร็วเหมือนสายพันธ์อื่น มีการการนำไปปลูกในหลายประเทศ ภายใต้สิทธิบัตรของประเทศนิวซีแลนด์
ยังมีอีกหลายสายพันธ์ที่ไม่ค่อยเห็นวางขายในบ้านเรา และเป็นที่นิยมในฝรั่งเศสคือ Reinette du Canada หรือ Canada Reinette (แคนาดา เรนเน็ตต์) เป็นสายพันธ์โกลเด้นชนิดหนึ่ง ที่มีสีน้ำตาลแดงมาก มีรสเปรี้ยว จะรับประทานผลสดก็ได้ และส่วนใหญ่ใช้สำหรับปรุงอาหาร เมื่อเก็บมาจากต้นก็ควรนำไปทำอาหารอย่างรวดเร็ว เพราะหากเก็บไว้สักพักเนื้อจะนิ่มและหวานขึ้น
